พายุเฮอริเคนเอียนไม่เพียงทำลายล้างฟลอริดาทางตะวันตกเฉียงใต้บนบก แต่ยังทำลายล้างใต้น้ำอีกด้วย มันทำลายแนวปะการังที่มนุษย์สร้างขึ้นและนำกระแสน้ำสีแดงซึ่งเป็นสาหร่ายที่เป็นอันตรายซึ่งฆ่าปลาและนกตามที่นักวิจัยทางทะเลที่กลับมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากการล่องเรือหกวันที่จัดโดย Florida Institute of Oceanography
นักวิจัยที่ใช้เรือสำราญเพื่อศึกษาชีวิตทางทะเลในอ่าวเม็กซิโกหลังจากพายุเฮอริเคนกล่าวว่ามันทิ้งไว้ในกระแสน้ำสีแดงที่ตื่นขึ้นและทำลายแนวปะการังเทียมจากที่ไกลถึง 48 กิโลเมตรจากชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟลอริดา
“แนวปะการังที่มีชีวิตชีวาซึ่งครั้งหนึ่งเคยกลายเป็นแหล่งภัยพิบัติใต้น้ำแล้ว” คัลลี จอห์นสัน เจ้าหน้าที่ดำน้ำเพื่อความปลอดภัยของเรือวิจัยกล่าว “ที่ซึ่งเคยเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ตอนนี้มีเพียงปลาเท่านั้นที่สามารถกลับมาได้หลังจากว่ายน้ำออกไป ”
ก่อนที่พายุระดับ 4 จะสร้างแผ่นดินถล่มเมื่อเดือนที่แล้ว ฟลอริดาตะวันตกเฉียงใต้มีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการตกปลาน้ำเค็มที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา น้ำเค็มและการตกปลาน้ำจืดในฟลอริดา มีผลกระทบทางเศรษฐกิจประมาณ 13.8 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Florida Fish and Wildlife คณะกรรมการอนุรักษ์.
“เวลาจะบอกได้ว่าสิ่งนี้ส่งผลต่อเศรษฐกิจของเรามากขึ้นอย่างไร เพราะการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการประมงและการท่องเที่ยวจะมาจากการเปลี่ยนแปลงในโลกใต้น้ำของเรา” จอห์นสันกล่าว
นักวิจัยทางทะเลในการล่องเรือพบสาหร่ายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของกระแสน้ำสีแดงนอกชายฝั่ง Punta Gorda, Boca Grande และทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Sanibel จะใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่นักวิจัยจะสามารถวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำที่เก็บรวบรวมเพื่อระบุภัยคุกคามต่อชีวิตในทะเลนอกชายฝั่งฟลอริดา
การระบาดของคลื่นน้ำสีแดงยังคุกคามพะยูนนอกเขตซาราโซตาและชาร์ล็อตต์ที่ต้องพึ่งพาหญ้าทะเลเป็นอาหาร ตามรายงานของ Ocean Conservancy
“ฟลอริดาอยู่ที่ทางแยก โดยมีจำนวนพะยูนตายเป็นประวัติการณ์” เจพี บรูคเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ฟลอริดาเพื่อการอนุรักษ์มหาสมุทรกล่าว “เราต้องรักษาปัญหานี้ให้อยู่ในระดับแนวหน้า ดังนั้นผู้นำทั่วทั้งรัฐจะลงทุนในการแก้ปัญหาเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำ—ปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเพื่อรักษาพะยูนที่เรารัก”
จนถึงกลางเดือนตุลาคม เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าฟลอริดาบันทึกการเสียชีวิตของพะยูน 719 ราย ปีที่แล้วมีพะยูนเสียชีวิต 982 ราย