ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการทำรีแพร์

News

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการทำรีแพร์ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดทำรีแพร์ เช่น เสียเลือดมาก เกิดการติดเชื้อ ผนังกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ทะลุ หากผ่าตัดบริเวณฝีเย็บสูงเกินไปอาจทำให้เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ อวัยวะเพศอาจผิดรูปร่างไปทำให้ไม่เป็นที่พอใจได้ เป็นต้น สำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำรีแพร์ ได้ คือ ผู้ป่วยเบาหวาน เพราะแผลอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ, ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศภายใน 1 สัปดาห์ และผู้ที่มีอาชีพที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัดเสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก แผลอักเสบ และฉีกขาด

ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการกระชับช่องคลอด ทั้งนำมาใช้แทนการผ่าตัดทั่วไป และการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด สำหรับการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ แพทย์จะทำการผ่าตัดบริเวณผนังช่องคลอดด้านหลัง โดยตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของผนังช่องคลอดออก เพื่อให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลง ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ช่วยลดการสูญเสียเลือดและลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้มาก เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่า

สำหรับการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัดนั้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม แต่ไม่มีปัญหา ไอจาม ปัสสาวะเล็ด โดยการนำหัวเลเซอร์สอดเข้าไปในช่องคลอด แล้วปล่อยพลังงานเลเซอร์ออกมาในคลื่นความยาวที่เหมาะสม ตลอดแนวความลึกของช่องคลอด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อช่องคลอดมีความตึงตัวขึ้น ผนังช่องคลอดหดเล็กลง มีความแข็งแรงและกระชับขึ้น เป็นการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีการสูญเสียเลือดและไม่มีอาการปวดใดๆ โดยมีการวัดความตึงตัวของช่องคลอดทั้งก่อนและหลังทำ จึงสามารถเห็นถึงผลของการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดได้ ทั้งนี้ ผลการรักษาขึ้นกับสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล

การทำรีแพร์ควรทำในช่วงที่ประจำเดือนหมดไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการอักเสบของแผลและการปนเปื้อนของเลือดในระหว่างการผ่าตัด ควรตรวจภายในและตรวจมะเร็งปากมดลูกให้เรียบร้อย เนื่องจากหลังผ่าตัดจำเป็นจะต้องงดตรวจไปสักระยะหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันแผลผ่าตัดถูกกระทบกระเทือน ผู้ป่วยต้องงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

การผ่าตัดกระชับช่องคลอดเพียงอย่างเดียวเป็นการผ่าตัดเล็ก แพทย์จะให้ยานอนหลับเพื่อให้ผู้ป่วยคลายความกังวล ใช้เวลาในการผ่าตัด 1 ชั่วโมง หลังผ่าตัดผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล สำหรับการผ่าตัดแก้ไขช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนเป็นการผ่าตัดใหญ่ แพทย์จะวางยาสลบหรือให้ยาชาทางไขสันหลัง ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 3-4 วัน

การดูแลตนเองหลังทำรีแพร์โดยการผ่าตัด
เพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือน หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตนเองตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

-งดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรง การยกของหนัก 4 สัปดาห์
-งดมีเพศสัมพันธ์ 2 เดือน
-เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อย โดยเฉพาะการเดินหรือวิ่ง เพือป้องกันแผลอักเสบหรือฉีกขาด
-งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่แบบระยะยาว
-ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดในช่วงเช้ากับเย็นทุกวัน รวมถึงหลังปัสสาวะและอุจจาระทุกครั้ง
-พักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน
-สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติทุกอย่าง แต่ให้ดื่มน้ำมากๆ ด้วย
-มาพบแพทย์เพื่อตรวจความเรียบร้อยของแผลสม่ำเสมอ