ภัตตาคารกลาสเบลลี ที แล็บ ในย่านคอสเวย์ เบย์ ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ให้บริการจิบน้ำชายามบ่าย พร้อมขนมหวานและของว่า 3 จาน โดยชาที่นำมาให้บริการลูกค้า เป็นชาอู่หลงชั้นดีหลายสายพันธุ์ รวมถึงชาโร่วกุ้ย ชาต้าหงเผ่า และชาจุ้ยเซียน จากเทือกเขาอู่อี๋ ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตชาราคาแพงที่สุดในโลก
ชาเกรดดีที่สุด ที่ภัตตาคารกลาสเบลลี นำมาให้บริการแก่ลูกค้าคือ ชาหนิ่วหลัน เก็ง โร่วกุ้ย สายพันธุ์หายากของชาโร่วกุ้ย ซึ่งมีราคาขายปลีกอยู่ที่ 36,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (154,125 บาท) ต่อ 25 กรัม หรือประมาณ 6,193,960 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม
ค่าบริการจิบน้ำชายามบ่าย พร้อมขนมหวานและของว่าง ที่ภัตตาคารกลาสเบลลี ที แล็บ ตกหัวละ 28,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (120,050 บาท) โดยทางร้านจะใช้ใบชา น้ำหนักประมาณ 5 กรัม ต้มในกาน้ำขนาดเล็ก 150-200 มิลลิลิตร
ปัจจุบัน ชาสายพันธุ์หายาก กำลังเป็นที่ต้องการ และราคาสูงลิ่วในประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2545 ชาต้าหงเผ่า จากเทือกเขาอู่อี๋ ซึ่งในยุคสมัยหนึ่งถูกสงวนไว้สำหรับจักรพรรดิเท่านั้น น้ำหนัก 20 กรัม ถูกนำออกประมูลขายที่เมืองกว่างโจว ผู้ชนะคว้าไปด้วยราคา 180,000 หยวน (ประมาณ 947,500 บาท) และในปี 2552 ชาไทปิง โห่วคุ้ย หรือชาเขียวจากมณฑลอานฮุย น้ำหนัก 100 กรัม ประมูลขายที่เมืองจี้หนาน มณฑลชานตง ด้วยราคา 200,000 หยวน (1,055,000 บาท)
และล่าสุด เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 บริษัทซัทเทบีส์สาขาฮ่องกง จัดการประมูลชาเป็นครั้งแรก โดยเค้กชาผู่เอ๋อร์ (ใบชาอัดเป็นรูปทรงขนมเค้ก) น้ำหนัก 330 กรัม ผู้ชนะประมูลคว้าไปด้วยราคา 562,500 ดอลลาร์ฮ่องกง (2,411,680 บาท)
