คอนโด The Trust @BTS เอราวัณ คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ ติด BTS ช้างเอราวัณ

News

คอนโด The Trust @BTS เอราวัณ คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ ติด BTS ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่ติดกับถ.สุขุมวิทฝั่งขาเข้า อยู่ติดกับ BTS สถานีช้างเอราวัณ เป็นทำเลแหล่งงานขนาดใหญ่ มีโรงงานทั้งขนาดเล็กและใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นแหล่งของชุมชน มีทั้งบ้านพักอาศัย, โรงเรียน, ตลาด และวัด โดยโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวก็ทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากขึ้น เห็นได้จากโครงการที่อยู่อาศัยในแนวดิ่งมาปักหมุดลงตามเส้นรถไฟฟ้าอยู่หลายโครงการ โดนสถานีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือสถานีช้างเอราวัณค่ะ

ส่วนแหล่งความสมบูรณ์ตอนนี้จะยังคงกระจุกตัวอยู่แถวๆสำโรงทั้งห้าง, ร้านค้า และตลาด ตรงนั้นก็จะมีทั้ง Imperial World สำโรง, สำโรง เซ็นเตอร์, ตลาดเอี่ยมเจริญ ถ้าเป็น Hypermarket ก็จะมี Big C Jumbo จะอยู่ตรงกับจุดกลับรถพอดี ส่วนบริเวณใกล้ๆตัวโครงการก็พอมีสาธารณูปโภค มีร้านอาหารเล็กๆอยู่บ้าง โดยโครงการได้จัดยูนิตร้านค้าเอาไว้ให้ใต้อาคารถึง 7 ยูนิตด้วยกัน ตอนนี้ที่เห็นก็คือมีเซเว่นมาลงแล้วค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนับว่าสะดวกค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถ.สุขุมวิทซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่อีกหลายสาย เว้นแต่ช่วงเวลา Rush Hour ที่รถจะติดเป็นปกติค่ะ ใกล้ๆก็จะมีถ.เทพารักษ์ วิ่งออกไปทางบางบ่อ เชื่อมกับถ.ศรีนครินทร์ และถ.บางนา-ตราด วิ่งยาวๆออกไปทางชลบุรี

แต่เราสามารถเลี่ยงรถติดได้เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้ทั้ง จุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ทั้งฝั่งขาไปพระราม 2 ทางนี้จะต่อ ถ.วงแหวนอุตสาหกรรมไปลงถ.พระราม 3 ได้ และฝั่งขาไปทางบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถขับยาวไปลงที่ ถ.รามคำแหง ใกล้ๆหมู่บ้านสัมมากร และ ถ.รามอินทรา ตรงแฟชั่นไอส์แลนด์ได้เลย และ ตัวโครงการก็อยู่ใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนบางนา) เข้าเมืองได้สะดวก

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายสุดๆ เพราะว่ามีสถานีสถานีช้างเอราวัณ เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมาจากสถานีสำโรง ช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ อยู่ที่หน้าโครงการเลย เดินไปแค่ 70 เมตรถึงเลย ตอนนี้ก็ใกล้ฤกษ์จะได้เปิดให้ใช้บริการแล้ว นอกจากนี้ สถานีสำโรง (นั่งจาก สถานีช้างเอราวัณ ไป 2 สถานี) จะเป็น สถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง พัฒนาการ-สำโรง อีกด้วย

ส่วนรถเมล์ก็มีหลายสายวิ่งผ่านอยู่ค่ะ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ก็วิ่งผ่านอยู่ตลอด แม้ว่าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวขับก็สะดวก

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 30 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 1,570 ยูนิต บนพื้นที่ 7 ไร่ วางผังอาคารเป็นรูปตัว H ใช้ผนังโครงสร้างคุณภาพจาก SCG ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว

โดยห้อง Studio ถึงจะมีขนาดเล็กก็ทำออกมาได้ดูโปร่งโล่ง เข้าไปในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลย ส่วนห้องครัว, ห้องทานอาหาร และห้องน้ำจะสามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นส่วนแยกออกไปได้ แต่ขนาดพื้นที่ห้องค่อนข้างมีจำกัด จึงทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างยาก ในกรณีที่ห้องไม่ได้แถมเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วย และไม่เหมาะกับคนที่มีของเยอะ เพราะจะไม่มีพื้นที่สำหรับเก็บของเลยค่ะ

ส่วนห้อง 1 Bedroom จะแบ่งส่วนห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหาร และห้องครัวเอาไว้ในห้องโถงใหญ่ด้วยกัน และแบ่งห้องนอนแยกต่างหาก จุดดีของห้องนี้ก็คือทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีแขกไปใครมา ส่วนภายในห้องนอนก็จะมีขนาดค่อนข้างกระทัดรัดไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom ค่ะ

ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี ถือว่าใช้ได้ค่ะ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ มาแต่ตัวได้เลย นอกจากนี้ก็ยังได้เครื่องปรับอากาศภายในห้องขนาด 9,000 BTU และ 12,000 BTU ด้วย ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ 1.59 ล้านบาท และมีโปรโมชั่นพิเศษ อยู่ฟรี 2 ปี*

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ที่นี่จะมี Facilities ให้พอสมควรเลย ตั้งแต่ชั้น 1 ก็จะมี Lobby, Mail Room, สวนหย่อมด้านหลังอาคาร และร้านค้าอีก 7 ยูนิต มาที่ชั้น 5 จะเป็นส่วนของ Main Facilities ประกอบด้วย Swimming Pool ขนาด 16 x 27 เมตร แบ่งสระเด็กสระใหญ่, Pool Deck พร้อม Day Bed, ห้องสมุด, ห้องเล่นเด็ก, ซาวน่า และ สวนสไตล์รีสอร์ท จากชั้น 5 มีบันไดขึ้นชั้น 6 ไปยัง Fitness ที่มีอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังให้อย่างครบครัน

เนื่องจากโครงการเน้นผู้อยู่อาศัยที่เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าด้วยจึงได้ทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 30% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย แต่ก็พอรับได้เพราะเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าค่ะ มีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟต์อยู่ที่ 265 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานไปเท่าตัวนะ เพราะเป็นอาคาร High rise ด้วย อาจจะทำให้ต้องรอลิฟต์นานค่ะ