คอนโดติด BTS : ให้เงินเดือน ช่วยเลือกคอนโดของคุณ

News

คอนโดติด BTS : ให้เงินเดือน ช่วยเลือกคอนโดของคุณ การกู้สินเชื่อ เป็นการขอยืมเงินจากธนาคารแล้วค่อยผ่อนคืนทีหลัง บางคนสามารถกู้ได้ 100% หรือเต็มจำนวน แต่บางคนกู้ได้ไม่เกิน 90% ของราคาขายหรือราคาประเมิน ซึ่งจะได้มากน้อยแตกต่างกันไปตามสัดส่วนรายได้ หรือกำลังผ่อนของแต่ละคน รวมถึงจำนวนปีของการกู้ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารเสนอให้ในขณะนั้นด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วประเมินการกู้เบื้องต้นจะกู้ได้ประมาณ 50 เท่าของรายได้ทั้งหมด หรือ ตามกำลังผ่อนชำระแต่ละงวดไม่เกิน 40% ของเงินเดือน นอกจากนั้นก็เป็นรายละเอียดรายบุคคลว่า ใครจะมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันที่มากพอ อาจจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ และได้รับวงเงินกู้ได้มากขึ้นก็ได้ ดังนั้นเงินเดือนจึงเป็นตัวช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อคอนโดฯ และยื่นขอกู้สินเชื่อกับธนาคารเพื่อช่วยให้เราสามารถแบกภาระการผ่อนที่ไม่เกินตัว

เงินเดือนเท่านี้ กู้เงินได้เท่าไหร่

(คิดจากรายได้ของมนุษย์เงินเดือน + วงเงินกู้)

ในส่วนนี้จะคิดง่ายๆนะครับ โดยการเอาฐานเงินเดือนคูณ 50 ไปเลย ก็จะได้ตัวเลขถ้วนๆ ของจำนวนเงินที่กู้กับทางธนาคารได้ โดยส่วนนี้ยังไม่รวมอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับ ซึ่งแตกต่างกันตามแต่ละคนที่ขอสินเชื่อ รวมถึงธนาคารที่ยื่นกู้ด้วย

มนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ หรือ Junior

จะได้เงินเดือนโดยประมาณ 15,000 – 30,000 บาท
ธนาคารมีวงเงินกู้สินเชื่อให้ประมาณ 750,000 – 1,500,000 บาท
ทำเลที่น่าสนใจ คอนโดทำเลชานเมือง ประเภท Low-rise (ไม่เกิน 50,000 บาท/ตร.ม.)

มนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ หรือ Senior

จะได้เงินเดือนโดยประมาณ 30,000 – 60,000
ธนาคารมีวงเงินกู้สินเชื่อให้ประมาณ 1,500,000 – 3,500,000 บาท
ทำเลที่น่าสนใจ คอนโดทำเลปลายรถไฟฟ้า (50,000 – 150,000 บาท/ตร.ม.)

มนุษย์เงินเดือนระดับหัวหน้าหรือ Manager

จะได้เงินเดือนโดยประมาณ 60,000 – 100,000
ธนาคารมีวงเงินกู้สินเชื่อให้ประมาณ 3,500,000 – 6,000,000 บาท
ทำเลที่น่าสนใจ คอนโดทำเลบริเวณโดยรอบรถไฟฟ้า (150,000 – 200,000 บาท/ตร.ม.)

มนุษย์เงินเดือนระดับเจ้าของหรือ CEO

จะได้เงินเดือนโดยประมาณ 100,000 ขึ้นไป
ธนาคารมีวงเงินกู้สินเชื่อให้ประมาณ 10,000,000 บาทขึ้นไป
ทำเลที่น่าสนใจ คอนโดทำเลใจกลางเมือง ระดับ Hi-end (มากกว่า 200,000 บาท/ตร.ม.)

เงินเดือนเรา ผ่อนได้เท่าไหร่ บอกวงเงินกู้ได้

(คิดจากรายได้ของมนุษย์เงินเดือน + ความสามารถในการผ่อน + วงเงินกู้)

วิธีนี้เป็นวิธีคิดแบบละเอียดขึ้นมาอีก โดยคำนวณจากเงินเดือนเพื่อดูว่าเงินเดือนเรามีความสามารถสูงสุดในการผ่อนได้ต่อเดือนเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่ แต่ละงวดจะมีความสามารถผ่อนได้ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน หรือ 1 ใน 3 ของเงินเดือน โดยหักส่วนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเงินออมออกไป ส่วนที่เหลือนี้จึงให้เป็นเงินลงทุน หรือส่วนที่ธนาคารนำมาคิดความสามารถในการผ่อนชำระ

เมื่อเรารู้จำนวนเงินผ่อนชำระต่องวดสูงสุดที่เรามีความสามารถผ่อนได้ในแต่ละเดือนแล้ว ก็จะสามารถนำจำนวนเงินนี้ไปคำนวณต่อเป็นวงเงินกู้สูงสุดที่ผู้กู้จะสามารถกู้ได้ โดยหลักการเบื้องต้นในการประเมินวงเงินกู้จะคิดจากจำนวนเงินที่ผู้กู้มีความสามารถผ่อนได้ในแต่ละงวดเป็นอัตราส่วน จำนวนเงินผ่อนชำระต่องวด 7,000 บาท ต่อยอดหนี้ 1 ล้านบาท หรือที่ได้ยินบ่อยๆว่า ผ่อนล้านละ 7,000 นั่นเอง

ตัวอย่าง และเงื่อนไขในการคำนวณ

A เงินเดือนผู้กู้ 50,000 บาท ไม่มีภาระหนี้สินอื่น
ความสามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน

ผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุด 50,000 x 40% = 20,000 บาทต่อเดือน

จำนวนเงินผ่อนชำระต่องวด 7,000 บาท : วงเงินกู้ 1,000,000 บาท

สามารถขอวงเงินกู้สูงสุด = (1,000,000 x 20,000) ÷ 7,000 = 2,857,000 บาท

สรุปแล้ว

ผู้กู้ที่มีความสามารถในการผ่อนชำระต่องวดสูงสุด 20,000 บาท สามารถขอวงเงินกู้ได้สูงสุด 2,857,000 บาท

B เงินเดือนผู้กู้ 50,000 บาท มีภาระหนี้สินอื่นอีก 5,000 บาท

ความสามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 40% ของเงินเดือน

ผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุด (50,000 x 40%) – 5,000 = 15,000 บาทต่อเดือน

จำนวนเงินผ่อนชำระต่องวด 7,000 บาท : วงเงินกู้ 1,000,000 บาท

สามารถขอวงเงินกู้สูงสุด = (1,000,000 x 15,000) ÷ 7,000 = 2,143,000 บาท

สรุปแล้ว

ผู้กู้ที่มีความสามารถในการผ่อนชำระต่องวดสูงสุด 15,000 บาท สามารถขอวงเงินกู้ได้สูงสุด 2,143,000 บาท

ผ่อนล้านละ 7,000 บาทต่อเดือน มายังไง ?

ตัวเลขล้านละ 7,000 มาจากการคำนวณเบื้องต้นว่าเงินที่เราผ่อนไหวควรจะต้องเป็น 1 ใน 3 เท่าของรายได้ที่เราสามารถผ่อนชำระได้ โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ช่วยให้เราไม่ต้องมีภาระหนี้สินผ่อนเกินกำลัง แต่จริงๆแล้วตัวเลข 7,000 นี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามข้อตกลงของการกู้สินเชื่อ ซึ่งแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร เช่น ในเรื่องของจำนวนเงินที่ต้องการผ่อนชำระต่อเดือน, จำนวนปีของการกู้, จำนวนเงินที่ต้องการกู้ และที่สำคัญคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่อปี

สรุป

วิธีการที่เรานำมาเสนอข้างต้นนี้จะช่วยให้ผู้กู้สามารถประเมินความสามารถในการกู้ของตนเองคร่าวๆ ได้ เพื่อให้เรารู้งบประมาณของตัวเองในการซื้อหรือเลือกคอนโดตามทำเลได้ โดยวงเงินกู้และยอดผ่อนชำระแต่ละงวดที่ธนาคารคำนวณให้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยหลัก เช่น จำนวนเงินที่ต้องการผ่อนชำระต่อเดือน, จำนวนปีของการกู้, จำนวนเงินที่ต้องการกู้ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่อปี รวมถึงประวัติการชำระหนี้ที่ดีหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันอื่นๆ ด้วย