การวิเคราะห์การตลาดออนไลน์ วัดจากอะไรบ้าง วิเคราะห์อะไรบ้าง

News

การวิเคราะห์การตลาดออนไลน์ วัดจากอะไรบ้าง วิเคราะห์อะไรบ้าง แน่นอนว่าการวางแผน หรือวางกลยุทธ์ที่ดีและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม การมีเป้าหมายก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน และสิ่งที่จะทำให้คุณรู้ว่าคุณประสบความสำเร็จ หรือบรรลุเป้าหมายนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ก็คือ การวัดผล ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ใช่แค่ยอดขาย หรือผลกำไรที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเท่านั้น โดยการวัดผลนี้มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำ การวัดผลการทำการตลาดออนไลน์ ว่ามีอะไรบ้าง และต้องวิเคราะห์อย่างไร เพื่อให้คุณสามารถนำผลลัพธ์ที่ได้มาวางแผนในการปรับปรุง หรือพัฒนาสินค้าของคุณต่อไปในอนาคต

การตลาดออนไลน์ สามารถวัดผลได้ ดังนี้

1. Traffic

Trafficหมายถึง จำนวนผู้เข้าชม โดยสำหรับเว็บไวต์แล้วยอด Traffic นั้น จะมีผลต่อการจัดอันดับของ Google Search ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายๆ คือ หากจำนวนTraffic บนเว็บไซต์ของคุณมีมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนค้นหาชื่อสินค้า หรือคำใกล้เคียงกับสินค้าของคุณ เว็บไซต์ของคุณจะไปปรากฏอยู่ในหน้าแรกๆ ของ Google และทำให้สินค้าของคุณมีโอกาสสร้างยอดขายได้มากกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตามการสร้าง Traffic นั้นไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เพียงแค่เข้าใจหลักการ โดยการปรับแต่งเว็บไซต์ หรือทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อสร้างเว็บไซต์ให้ดี มีคุณภาพ หรือหากคุณมีต้นทุนที่มากพอ ก็อาจจะเลือกใช้วิธีการโฆษณาผ่าน Google แทน โดยข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณได้ทราบว่าลูกค้าของคุณมีกลุ่มใดบ้าง หรือลูกค้าช่วงอายุไหน เพศไหน ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณบ่อยที่สุด เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ในลำดับต่อไป

2. Engagement & Reach

Engagement & Reach หมายถึง จำนวนคนที่เข้ามาชม และมีส่วนร่วมกับโฆษณา หรือแคมเปญของคุณ โดยข้อมูลนี้ถือได้ว่าเป็นขั้นพื้นฐานที่ธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ไว้ เพื่อนำมาพัฒนาหรือสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้โดนใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และทำให้ได้รู้ว่า ในช่วงเวลานี้แบรนด์ของคุณกำลังเป็นไปในทิศทางไหน โดยควรเก็บรวบรวมข้อมูลEngagement & Reach ในทุกๆ 1 สัปดาห์ หรือ 1เดือน เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และทำให้สามารถเปรียบข้อมูลได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

3. Conversion Rate

Conversion Rate หมายถึง จำนวนอัตราส่วนของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ และมีการกระทำใดๆ เกิดขึ้น เช่น การลงทะเบียน การลงชื่อสมัครรับข่าวสาร หรือการกรอกแบบสอบถาม เป็นต้น Conversion Rate สามารถใช้วัดผลได้ว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้นมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียง หรือเพื่อดูแนวโน้มความเป็นไปได้ที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าและบริการของคุณ ซึ่งคุณสามารถนำ Conversion Rate มาวิเคราะห์ เพื่อหาว่าจำนวนนั้นๆ เกิดจากช่องทางไหนมากที่สุด จะช่วยให้คุณสามารถทำการตลาดออนไลน์ หรือวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม ต่อไป

4. Social Media

การวัดผลจาก Social Media นั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ สาเหตุก็เพราะสังคมออนไลน์ในยุคนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้บริโภคบวกกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้งานหรือลูกค้าเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มสังคมโซเชียลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter Youtubeหรือ Instagram ฯลฯ โดยในแต่ละแพลตฟอร์มนั้น ก็มีวิธีการวัดผลที่แตกต่างกันออกไป เช่น หากเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Facebookก็อาจจะวัดผลได้จากจำนวนผู้ติดตามเพจ ยอดไลค์ การแชร์ หรือการคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อให้ทราบว่าผู้บริโภคมีส่วนร่วม หรือมีความสนใจมากน้อยเพียงใด ถ้าเป็น Youtube ก็สามารถวัดผลได้จากยอด View หรือยอดผู้ Subscribeซึ่งข้อมูลเหล่านี้ สามารถทำให้ธุรกิจออนไลน์ได้รู้ว่าในแต่ละกิจกรรมที่ทำไปนั้น มีผลตอบรับเป็นอย่างไร จะได้นำมาปรับปรุง หรือพัฒนาต่อไป

5. ROI (Return of Investment)

ROI (Return of Investment) หมายถึง การวัดผลตอบแทนในการลงทุน แน่นอนว่าในทุกการลงทุนย่อมมีผลตอบแทน ส่วนจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับยอดขาย หรืออาจขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น บางธุรกิจลงทุนทำโฆษณา แต่ไม่ได้ต้องการผลตอบแทนที่เป็นตัวเงิน ซึ่งอาจต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กรเท่านั้น โดยในช่วงแรก อาจไม่ได้มีมียอด Engagement สูงมาก อย่างที่บอกว่าจะเน้นในเชิงสร้างภาพลักษณ์ เพื่อต้องการให้เกิดการรับรู้แบรนด์มากกว่าโดยในช่วงเวลาต่อมายอดขาย หรือกำไรจะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นไปเอง

นอกจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะใช้ในการวัดผลการตลาดออนไลน์แล้ว สำหรับเครื่องมือในการวิเคราะห์การตลาดออนไลน์ ก็มีความสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถนำผลที่วิเคราะห์ได้มาวางแผนการตลาดออนไลน์ได้อย่างเหมาะสม และส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการวัดผลนั้นเป็นไปในทิศทางบวก โดยในปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์การตลาดออนไลน์ ก็มีมากกมาย เช่น Management Tools, Monitoring Tools , Listening Tools เป็นต้น

ยกตัวอย่าง Mandala Analysis ผู้ให้บริการในการวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับการตลาดออนไลน์ อย่างเช่น เครื่องมือ Online Listening and Monitoringที่ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า หาความต้องการได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยให้คุณได้รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งด้วยเช่นเดียวกัน หรือสามารถค้นหาข้อมูลเชิงลึกของคู่แข่งบนโลกออนไลน์ได้ด้วยเครื่องมือ Insight Research

Mandala Analysis มีระบบการทำงานที่เสถียร สามารถช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็วพร้อมนำข้อมูลเหล่านั้น ไปวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Mandala Analysis เชื่อว่าท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือนบนโลกออนไลน์ สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ คือการรู้ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง รวมถึงรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง และอย่าลืมที่จะวัดผลการทำงานอย่างสม่ำเสมอด้วย